สวัสดีค่ะ (Scroll down for English)

นิดาเชื่อว่าหลายๆที่ตามอ่าน blog ของนิดาอาจจะคิดว่านิดาทานแต่อาหารฝรั่งเพราะนิดาไม่ค่อยลงรูปอาหารไทยสักเท่าไหร่ แต่ความจริงนั้นนิดาชอบอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะอาหารอีสานรสแซ่บ พี่เลี้ยงของนิดาเป็นชาวยโสธร นิดาจึงโตขึ้นมากับส้มตำ ตำไท ตำปูปลาร้า ซุปหน่อไม้ ทานได้ทุกอย่าง ยิ่งเผ้ดยิ่งชอบค่ะ

ปรกติเวลานิดาทานส้มตำก็จะทานที่บ้านเพราะว่าจะได้รสแซ่บถูกใจ แต่วันนี้ได้มีโอกาสไปลองทานอาหารอีสานที่ร้าน ส้มตำ เด้อ ตรงซอยศาลาแดงก่อนถึง Zanotti ต้องบอกเลยว่ารสชาติถูกปากนิดามาก เพราะอาหารรสจัดจริง ไม่ติดหวานเหมือนส้มตำชาวกรุงเทพทั่วไป แถมมีตำแปลกๆแบบอีสานแท้ๆให้ทานเป็นสิบอย่าง เช่นตำหอยดอง ตำแหลกใส่หอยเชอรี่

ส้มตำแรกที่คุณเอ้หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านแนะนำคือ ตำซั่วสกลนคร หรือตำปลาร้า ที่ใช้ปลาร้าต้มสูตรปรุงเองของที่ร้าน ใส่ขนมจีนและปู แล้วก็มีจุดเด่นตรงเม็ดกระถินที่ตำลงไปเพิ่มความกรุบกรอบค่ะ ใครชอบตำปลาร้าห้ามพลาด ส่วนความเผ็ดก็เลือกได้ตามชอบเลยนะคะ นิดาเลือกลองแบบกลางๆที่พริก 4 เม็ด อร่อยกำลังดีค่ะ ทานคู่กับผัดหมี่หอมๆ ตามแบบฉบับชาวขอนแก่นอร่อยไปอีกแบบนึงนะคะ

ส้มตำชนิดที่สองเราเปลี่ยนมาเป็นแบบภาคกลางกันบ้างกับส้มตำปลาทูข้าวมัน ที่รสชาดจะออกหวานอมเปรี้ยวเตล้ากับเนื้อปลาทูแม่กลองย่าง เหมาะกับคนไม่ชอบทานรสจัด นิดาติดใจกับความหอมของข้าวมันที่ทาร้านใช้กะทิอบควันเทียนทำมากๆค่ะ แล้วก็ชอบที่ใส่เมล็ดถั่วเขียวลงไปด้วย เพราะปรกติจะทานแต่แบบมีแต่ใบเตย

จานต่อมาเป็นเมนูย่างๆกันบ้างกับ เนื้อร้องไห้เด้อ ที่ทางร้านไม่เรียกว่าเสือร้องไห้เนื่องจากเนือได้ผ่านการหมักกับพริกป่นและข้าวคั่วลงไปด้วย ทำให้ได้กลิ่นหอมจากการย่างและจากข้าวคั่วค่ะ ทานกับแจ่วและข้าวเหนียวดำอร่อยเลย

จานโปรดที่สุดของนิดาวันนี้เห็นจะเป็นหมูปิ้งกะทิสดที่เนื้อหมูนุ่มมากๆ เคี้ยวแล้วได้รสหวานและมันจากกะทิ เวลาเค้าปิ้งหมูไปเค้าก็จะหมั่นทากะทิไปด้วยค่ะ เสร็จแล้วก็ราดหัวกะทิอบควีนเทียนอีกที ทานคู่กับเส้นหมี่และแจ่ว อร่อยมากๆ ใครไปห้ามพลาดนะคะ

อีกจานที่ขาดไม่ได้เวลาทานอาหารอีสานคือ ซุปหน่อไม้ ใครเป็นแฟนปลาร้าทานแล้วก็น่าจะถูกใจค่ะ รสของเค้ากลมกล่อม ปลาร้าไม่มีกลิ่นแรงเลยค่ะ

อาหารคาวจานสุดท้ายคือ ซุปเปอร์ปีกไก่ ขอบอกว่าจานนี้นิดาซดน้ำจนเกลี้ยงเลยค่ะ ถ้าใครหวังจะหาน้ำแกงแก้เผ้ดคงต้องสั่งจานอื่น แต่ถ้าชอบน้ำแกงรสแซ่บแล้วล่ะก็ต้องถูกใจแน่นอนค่ะ (คนที่ไปด้วยแอบกระซิบว่า เหมาะมากที่จะทานแก้แฮงค์)

สุดท้ายมาถึงของโปรดของนิดา นั่นก็คือขนม! จานแรกที่นิดาลองคือ บัวลอยเผือก ที่เน้นรสเผือกแบบเต็มๆเพราะใส่เผือก 70% แป้ง 30% แทนที่จะเป็นแป้ง 70% เข้ากันมากกับกระทิรสเค็มๆมันๆค่ะ แต่ที่น่าสนใจมากๆคือ เฉาก๊วยนมสด ที่ทางร้านได้นำเฉาก๊วยไปปรุงรสตามแบบส้มตำ เด้อ แล้วก็เอาไปแช่แข็งจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง พอจะเสิร์ฟก็ราดด้วยน้ำเชื่อมและนมสด ชื่นใจมากค่ะ

ถ้าใครอยู่แถวๆศ่ลาแดงอย่าลืมแวะไปที่ร้านนะคะ เค้าเปิดทั้งมื้อเที่ยงและเย็นค่ะ แถมมีดริงค์ที่ทางร้านทำเองอย่าง กระเจี๊ยบ martini ที่ทางร้านได้เอากระเจี๊ยบเข้าไป infuse กับ vodka เลยค่ะ ทำให้ได้กลิ่นหอมกว่าใส่กับน้ำกระเจี๊ยบอย่างเดียวค่ะ

++++++++

Hi there,

Judging from the content on my blog, many of you may think that I do not eat Thai food that often. The truth is, I eat somtum or North Eastern (Isan) Thai papaya salad almost every day. Since I was raised with spicy Isan food, my tolerance for spiciness is very high; therefore, most “high-end” Isan restaurant rarely satisfies my tastebuds. Where as the street-side Isan food, though often spicy enough, almost always makes me feel like I will shed a whole head of hair from all the msg that’s in my food. Therefore, I often resort to eating home-made somtum instead.

With all that said, today I actually ate at a truly authentic Isan restaurant that has a nice clean and welcoming ambiance. The restaurant is called Somtum Der in Soi Saladaeng near the famous Italian restaurant, Zanotti. For those of you who loves to experiment, I believe this place has many dishes that you have not tried before, such as  field shellfish papaya salad.

The first dish I tried was a real Isan-style dish called Tum Suo Sakonakorn

That has rice vermicelli, crab, green kratin seeds (horse tamarind,) and flavored with condiment of fermented fish (plara), which is a North Eastern delicacy. Please be warned though that plara is even stronger than fish sauce, so it’s one of those dishes that you either love or hate like durian, blue cheese, and japanese fermented soybeans (natto.)

The next dish is perfect for those who only fancy a little adventure with not too much heat. The dish is called Tum Pla Too and Kao Mun, or thai mackerel in papaya salad. The salad focuses less on heat and more on the balance of sweetness of the cane sugar and the sourness of lime. It is served with my favorite kind of rice, kao mun, or rice cooked in coconut milk which gives it a nice creamy sweetness that perfectly balances out the acidity of the papaya salad.

The next dish is House Special Grilled Beef that’s been marinated in roasted rice and dried chillis which gives it a nice toasted aroma.

My favorite dish of the whole meal is the grilled Coconut Milk Marinated Pork Skewers. The pork is fork tender, coconut milk is slarthered on the skewers as it they are being grilled to give it a nice flavor. The dish is best enjoy with spicy “jaew” sauce and some rice noodles.

Another popular Isan dish is Soup Noh Mai or grilled bamboo shoot cooke with traditional Esard herbs. Again this dish has “plara” as an ingredient, so only try it if you are ok with fish sauce.

Last savory dish of the meal is Super Spicy Chicken Wing Soup. If you are looking for something to wash down the heat of the other dishes, pass on this one since it is quite spicy, but oh so flavorful. Apparently, it is a good dish to cure hang over.

And now to my favorite part of any meal – desserts. The first dessert I tried was the Bua Loi Puek or Taro dumpling in coconut milk. Normally these dumplings are made with 70% flour and 30% taro meat, but here the ratio is flipped resulting in a load of taro goodness – yummy! However, I must say, I was very intrigued by the Black Grass Jelly with Milk dish since the grass jellies are normally served in syrup with ice; but here they are frozen until icy and served with syrup and milk. I loved it!

So if you happen to be in the Saladaeng area, looking for a good lunch or dinner, don’t forget to stop by at Somtum Der. You can also stop by for some drinks such as this Roselle Martini, made with Roselle infused vodka, or some Chenin Blanc paired with thai dishes.

Bon Appétit!

Somtum Der

5/5 Soi Saladaeng, Silom Rd., 02-632-4499