My Food Map

สวัสดีค่ะ นิดาเป็นคนชีพจรลงเท้าค่ะ รักการเดินทางมากๆ ไม่ว่าจะเป็นไปเที่ยว ไปเรียน ไปทำงาน และไม่เคยเบื่อการขึ้นเครื่องบินเลย และแน่นอนว่าคนช่างกินอย่างนิดาต้องใช้เวลาไปกับการแพลนร้านอาหารในแต่ละทริปค่อนข้างมากค่ะ นิดาเลยอยากเอาคำแนะนำเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับเรื่องกินๆเที่ยวสไตล์ My Sous-Vide Life มาฝากกันค่ะ นิดาจะเริ่ม research ร้านอาหารสัก 1 เดือนก่อนหน้าวันเดินทางค่ะ เพราะจะได้จองร้านที่จองยากๆได้ทัน โดยเน้นเลือกร้านในแบบ “eat like a local” หรือการทานแบบเข้าถิ่นค่ะ เวลาเลือกร้าน ก็จะไม่เข้าเว็บที่นักท่องเที่ยวส่วนมากชอบกันเช่น Tripadvisor เพราะกลัวเจอร้านดักนักท่องเที่ยวที่แพงและไม่อร่อยค่ะ ใช้วิธีถามเพื่อนชาตินั้นๆ หรือเข้าเว็บของประเทศนั้นแล้วพึ่ง Google Translate เอาค่ะ ข้อแนะนำง่ายๆคือเมื่อไปถึง ให้เลือกเดินหาร้านอาหารในเวลาที่คนท้องถิ่นเค้าทานข้าวกันค่ะ เช่นไป Spain ก็รอสามสี่ทุ่มนู่นค่อยออกไป ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะทานกันอิ่มกลับร.ร.ไปหมดแล้ว และเราจะได้เลือกร้านอร่อยได้ง่ายๆ ก็ร้านที่คน local เยอะๆนั่นแหล่ะค่ะ พอเราได้ลิสต์ร้านอาหารที่น่าสนใจแล้ว นิดาก็จะทำแผนที่ของตัวเองขึ้นมาค่ะ web ที่ให้บริการการทำแผนที่นั้นมีให้เลือกหลากหลาย บางอันเน้นรูปลักษณ์ บางอันเน้น function บางอันฟรี บางอันแพง นิดาเลือกง่ายๆก็คือ Google…

Salad Tips from Jamie Oliver

สวัสดีค่ะ วันนี้นิดาไปเจอวีดีโอของ Jamie Oliver ที่เค้ากำลังพูดถึงวิธีทำสลัดแบบง่ายๆ นิดาเชื่อว่าหลายๆคนคิดว่าการทำสลัดจะไปยากอะไร ซึ่งจริงมากเลยค่ะ การทำสลัดนั้นง่ายมาก แต่น้อยคนที่จะทำสลัดอย่างถูกวิธีค่ะ ทำให้สลัดส่วนมากออกมาแฉะ จืด เหม็นเขียว และที่สำคัญ น่าเบื่อค่ะ นิดาเลยเลือกเอาวีดีโอนี้มาแปลให้ฟังเพราะ Jamie เค้าเน้นมากค่ะว่า “a salad should not be boring” วิธีทำสลัดแบบ Jamie Oliver:  ซืัอผักสลัดเป็นหัวแทนแบบถุงๆ การที่เราซื้อฝักสลัดมาเตรียมเองนั้น ทำให้เราได้ทั้งประหยัดเงินและผักที่อร่อยกว่าค่ะ วิธีการเตรียมก็ไม่ยากเลย แค่เด็ดใบชั้นนอกออก เอาแกนกลางออก แล้วก็ล้างให้สะอาดค่ะ อย่าลืมที่ปั่นสลัด (salad spinner) หลายๆคนมองข้ามความสำคัญของ salad spinner แต่จริงๆแล้วการสะเด็ดน้ำออกให้หมดนั้นสำคัญมากค่ะ เพราะผักจะคงความกรอบ แถมไม่มีน้ำไปเจือจางตัว dressing และทำให้ dressing เกาะกับผักได้ดีขึ้นทำให้อร่อยได้ในทุกๆคำค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีใช้ฝาชีกับผ้าเช้ดจานมาเขย่าๆแทนก็ได้ Ikea Tokig Salad Spinner เลือกชนิดผักสลัดให้หลากหลาย ถ้าเราใช้แต่ผักกาดแก้วทุกครั้งก็คงน่าเบื่อแย่ใช่ไหมล่ะค่ะ ในหนึ่งจานเราสามารถใช้ผักสลัดสารพัดอย่างมาปนๆกันเพื่อให้ได้รสที่หลากหลาย เช่น…

Tomato Tips & Tricks

สวัสดีค่ะ นิดาเชื่อว่าแทบทุกบ้านต้องมีมะเขือเทศไม่พันธุ์ใดก็พันธุ์หนึ่งติดอยู่ใยตู้เย็น แต่นิดามีโอกาสไปอ่านเจอ tips ดีๆมาจาก blog โปรดที่มีชื่อว่า The Kitchn ค่ะ เค้าบอกว่าความเย็นในตู้เย็นนั้นทำลายเนื้อเยื่อในผิวของมะเขือเทศและทำให้มะเขือเทศมีเนื้อไม่ฉ่ำ รสไม่อร่อยค่ะ เค้าแนะนำว่าให้เก็บมะเขือเทศไว้นอกตู้เย็นและให้ซื้อมาแบบสดที่สุด และสุกที่สุดเพื่อทานเลยค่ะ แต่ด้วยอากาศและหลายๆปัจจัยในบ้านเราคงจะทำได้ยาก แต่เค้าก็มีคำแนะนำดีๆอีกว่าให้นำมาตั้งไว้นอกตู้เย็น 1 วัน เพราะ enzyme จะกลับมาทำงานอีกครั้งและทำให้รสชาติดีขึ้นค่ะ วันนี้นิดามีสูตรซุปมะเขือเทศมาฝากด้วยค่ะ สูตรนี้อร่อยและทำไม่ยาก แต่ก่อนจะไปดูสูตรนิดาก็ไม่ลืมที่จะเอาวิธีทำซุปแบบเร่งด่วนใาฝากคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าครัวด้วยค่ะ ที่บ้านนิดาจะมีซุปกระป๋องยี่ห้อ Campbell’s อยู่ติดตู้ตลอด เป็นอาหารช่วยชีวิตเวลาเร่งด่วน แต่นิดาไม่ชอบรสของมันเปล่าๆ ก็เลยมักจะจับมา Enhance ด้วยการเพิ่มส่วนผสมอื่นๆลงไปค่ะ ต่อซุป 1 กระป๋อง: หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็กๆ เอาแต่ตรงที่นิ่มๆประมาณ 2 ลูก ตวงนม 1 กระป๋องและน้ำ 1/2 กระป๋องลงไปในซุปพร้อมมะเขือเทศ ต้มไปด้วยกันและชิมดูว่าขาดรสอะไรค่ะ เติมเกลือ พริกไทย น้ำตาลตามชอบ พอเนื้อมะเขือเทศนิ่มๆก็ตักขึ้นเสิร์ฟได้ค่ะ โดยก่อนเสิร์ฟนิดาจะเหยาะครีมหรือ sour cream ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความเข้มข้น และสามารถใส่ extra…

Attachment Issues – หัวตี

หัวตีตะกร้อหรือหัวตีใบไม้ หลายๆคนที่เพิ่งหัดทำขนม เพิ่งลงทุนซื้อเครื่องตีไฟฟ้า อาจจะมีอาการงงๆว่าแต่ละหัวตีมันมีหน้าที่อะไร วันนี้เลยเอา 2 หัวตีหลักๆมาเล่าให้ฟังค่ะ หัวตีตะกร้อ หัวตีตะกร้อมีลักษณะเป็นลวดสานไปมาเป็นทรงตะกร้อพองๆ ด้วยลักษณะของเส้นลวดหลายๆเส้นที่ทำให้เกิดการผสมไปมาที่เร็วขึ้น ทำให้หัวตีนี้เหมาะมากๆแก่การเพิ่มฟองอากาศให้กับส่วนผสม ซึ่งก็จะทำให้ส่วนผสมขึ้นฟูนั่นเอง หัวตีแบบนี้เหมาะจะใช้ในกับส่วนผสมเหลวๆ และใช้ตีที่ความเร็วสูงเพื่อให้เกิดการเพิ่ม volume ค่ะ เช่นการตี whipping cream ตี meringue และเค้กที่ใช้หัวตีนี้ก็จะเป็น “เค้กไข่” หรือเค้กที่เริ่มต้นด้วยการตีไข่กับน้ำตาลให้ฟูขาวนั่นเองค่ะ หรือเวลาตีไข่ขาวในสูตรเช่นพวกเค้ก angel food เค้ก chiffonค่ะ ไม่ควรเอาหัวตีนี้ไปใช้กับเค้กที่ไม่ต้องการให้มีฟองอากาศมากๆอย่างชีสเค้ก ที่สำคัญอย่าเอาไปตีเนยที่แข็งจัดเพราะมีโอกาสจะเบี่ยวได้ยิ่งถ้าเป็นยี่ห้อที่ไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ หัวตีใบไม้ หัวตีใบไม้ มีลักษณะคล้ายๆใบโพธิ์ แข็งกว่าหัวตีตะกร้อเยอะ เหมาะจะตีส่วนผสมให้เนียนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ไม่เพิ่มฟองอากาศมาก เหมาะใช้กับพวกเค้กที่เริ่มต้องด้วยการตีพวกไขมันต่างๆเช่นเนย ครีมชีสกับน้ำตาล (หรือเค้กที่ใช้เทคนิคการ cream หรือ cremage นั่นเองค่ะ) พวก butter cake หรือชีสเค้กก็ใช้อันนี้ได้เลย แต่ถ้าเอาไปตีพวกส่วนผสมเหลวๆแล้วหวังจะเพิ่ม volume ก็จะไม่เวิร์คแบบตะกร้อค่ะ ดีไม่ดีส่วนผสมร้อนขึ้นๆแต่ไม่ฟูเท่าที่ควรอีกต่างหากค่ะ Vanilla cheesecake recipe:…

Crash Diet // สูตรลดน้ำหนักต่างๆ

สวัสดีค่ะ วันนี้แทนที่จะเอาสูตรอร่อยๆมาแชร์ นิดาอยากจะพูดถึงเรื่องการไดเอ็ทตามสูตรนิดนึงค่ะ ทุกวันนิดาต้องได้คำถามทาง message เรื่องการลดน้ำหนัก ถามว่านิดาใช้สูตรอะไร ซึ่งนิดาก็ตอบไปทุกครั้งว่าไม่มีสูตรอะไรเลยจริงๆ (ดูรายละเอียดได้ทางวีดีโอ) แต่นิดาคิดว่าควรจะพูดถึงพวกสูตรลดน้ำหนักต่างๆนิดนึงค่ะ อย่างที่นิดาพูดอยู่เสมอว่า นิดาเชื่อว่าเรากินอะไรก็ได้แค่ขอให้เรากินให้ครบ 5 หมู่และเผาผลาญมากกว่าพลังงานที่เราทานเข้าไปแต่ละวัน แค่นี้น้ำหนักก็ไม่มีทางขึ้นค่ะ แต่นิดาเข้าใจว่ามันพูดง่าย แต่ทำยาก วันนี้เลยอยากเอาข้อมูลเล็กๆน้อยๆมาทำให้ชิวิตทุกคนง่ายขึ้นค่ะ ก่อนอื่นเลย ถ้าใครอยากรู้คร่าวๆว่าแต่ละวันเราเผาผลาญพลังงานเท่าไหร่ ลองใช้พวก activities calculator ต่างๆเช่นอันนี้ดูค่ะ แล้วก็กรอกข้อมูลน.น.แล้วก็กิจกรรมที่ทำและระยะเวลาลงไปนะคะ (อย่าลืมว่านี่เป็นการกะนะคะ)​ http://www.healthstatus.com/calculate/cbc พอเรารู้แล้วเนี่ย เราก็สามารถเทียบกับแคลอรี่ในอาหารค่ะ http://www.calorieking.com/foods/ ยกตัวอย่างว่า Ms.A เผาผลาญวันละประมาณ 1,500 kcal ถ้า Ms.A เลือกที่จะทำตามสูตรไดเอ็ทต่างๆที่ฮิตๆกันเช่น สูตร 3 วัน (ที่บอกเรามาเลยว่าแต่ละมื้อทานอะไรเท่าไหร่ แล้วบอกว่าปฏิกริยาเคมีจะที่เกิดขึ้นระหว่างอาหาร “พิเศษ” เหล่านี้จะทำให้น.น.ลด) แต่ถ้ามองตามความเป็นจริง อาหารที่เค้าให้เราทานให้พลังงานแค่ 800-1000 kcal แน่นอนว่ายังไงๆก็ผอมค่ะ ต่อให้เป็นเด็กทานแบบนี้ก็ผอมค่ะ (จริงๆว่าไปแล้วต่อให้ทานแต่ไอติมแต่แคลอรี่น้อยกว่าที่เผาผลาญก็คงผอมลงนะคะ..แต่ขาดสารอาหาร หรือจะทานข้าวตอนดึกๆอย่างที่ทุกคนห้ามนักหนาว่าจะทำให้อ้วนแต่ทานน้อยกว่าที่เผาผลาญ ก็ยังผอมลงอยู่ดี เพราะร่างกายได้เอาไขมันสะสมออกมาแปรรูปเป็นพลังงานส่วนที่ขาดไปนะคะ)…

Jacques Pepin Omelette

สวัสดีค่ะ วันนี้นิดามีวิธีทำ omelette สไตล์ฝรั่งเศสที่นิดาชอบที่สุดมาแชร์กันค่ะ นิดาได้ดูวีดีโอสอนทำ omelette สองชนิดของเชฟ Jacques Pepin ตอนปี 2011 แล้วตั้งแต่ลองทำตามก็ไม่ได้ใช้วิธีอื่นอีกเลยตั้งแต่นั้นมาค่ะ ตอนแรกที่นิดาดูวิธีทำ classic French Omelette ของเค้าแล้วรู้สึกแปลกๆที่เค้าเอาส้อมไปขูดๆกับกระทะแบบนั้น แต่พอลองทำก็ได้รู้ว่าเทคนิคนี้ทำให้ไขออกมาเนียนอร่อยและฟูกำลังพอดีค่ะ ขั้นตอนก็ไม่ยากค่ะ นำไข่เท่าที่ต้องการมา (นิดาใช้ 3 เชฟใช้ 4 เราเลือกให้เหมาะกับจำนวนคนและขนาดกระทะนะคะ) เชฟใส่ chives ลงไปแต่นิดาไม่มีเลยเลือกใส่เกลือพริกไทยธรรมดาค่ะ เทคนิคแรกของเชฟคือให้ตีไข่แรงๆจนแตกตัวกลายเป็นเนื้อเดียว ไม่มีไข่ขาวเหลือเป็นก้อนๆที่พอทอดแล้วจะเห็นเป็นขาวๆไม่น่าทานนะคะ เสร็จแล้วละลายเนยที่ไฟต่ำ อย่าให้เนยกลายเป็นสีน้ำตาลนะคะ omelette สไตล์นี้ต้องมีสีเหลืองอ่อนค่ะ พอเนยเดือดปุดๆก็ใส่ไข่ลงไป เทคนิคที่สำคัญคือเราใช้ส้อมกวนเร็วๆเหมือนเวลาทำ scrambled egg เลยค่ะ โดยเน้นให้ไข่จับตัวเป็นก้อนที่เล็กที่สุด แต่อย่าคนจะเพลินไข่สุกหมดนะคะ เอาแค่เหลือเหลวๆพอ coat ก้นกระทะอยู่ด้วย เพื่อให้ omelette มีผิวเรียบค่ะ หลังจากทิ้งไว้ให้ไข่จับตัวเป็นแผ่นแล้ว เราเอียงกระทะแล้วพับไข่จากด้านบนทบลงมาครึ่งนึงค่ะ หลังจากนั้นเคาะๆกระทะให้ไข่เลือนตัวมาตรงขอบก่อนจะพับอีกด้านนึงเข้ามา ตอนนี้ตรงกลางควรจะยังเหลวๆอยู่นะคะ นิดาใช้เวลานี้ใส่พวกแฮมหรือไส้กรอกที่ต้องการลงไปเลยค่ะ คราวนี้แอบมีพิเศษตรงหยด white truffle oil ไปด้วยเพื่อความหอม เสร็จแล้วคว่ำลงกระทะแล้วก็ทานได้เลย…

Fries 101

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องชนิดของ fries หรือมันฝรั่งทอดกันนะคะ French fries หรือ chips มันฝรั่งทอดชนิดแรกที่เราจะพูดถึง นิดาเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่มันฝรั่งทอดชนิดนี้นี้ไม่ได้มีชื่อว่า french เพราะมาจากฝรั่งเศส นะคะ แต่เพราะมันได้ผ่านการทอดแบบ french frying method ซึ่งในสมัยโบราณนั้นการทอด deep fry เค้าเรียกกันแบบนั้นค่ะ สูตร http://allrecipes.com/recipe/homemade-crispy-seasoned-french-fries/ Steak-cut fries มันฝรั่งจะมีชิ้นหนาและใหญ่กว่า french fries นิยมเสิร์ฟมากับ steak ค่ะ สูตร http://allrecipes.com/recipe/baked-french-fries-i/ Curly fries มันฝรั่งจะถูกหั่นด้วยเครื่อง spiral slicer เพื่อให้ fries ออกมาเป็นขดๆเหมือนสปริง ซึ่งมันฝรั่งทอดชนิดนี้จะมีรสจัดและสีเข้มกว่าแบบธรรมดาเพราะมักจะมีเครื่องปรุงต่างๆเช่น paprika cayenne pepper และผงกระเทียมและหัวหอมปนอยู่ด้วยค่ะ สูตร http://www.keyingredient.com/recipes/6853029/arbys-curly-fries/ Crinkle cut fries ชิ้นใหญ่กว่า french fries แต่ไม่เท่า steak…

Waffles, Waffles, Waffles

(Please scroll down for English) สวัสดีค่ะ นิดาเชื่อว่าหลายๆคนคุ้นเคยกับการทำ waffle กับ pancake จากแป้งสำเร็จรูป ทำให้ไม่ทราบถึงความแตกต่างของ batter 2 ชนิด จริงๆแป้งwaffle แบบ traditional นั้นต้องทำมาจากไข่ขาวที่ตีจนขึ้นฟู เพราะจะให้แป้งที่เบากรอบค่ะ นอกจากนั้นแป้ง waffle ก็มีไขมันมากกว่าด้วย ทำให้ถ้าใครชอบทาน waffle แบบนิ่มๆ ก็สามารถแปลงเอาสูตร pancake โปรดมาเป็น waffle ได้โดยการเติมเนยละลาย 1 ชต ต่อแป้ง 1 ถ้วย แล้วถ้าอยากให้อร่อยจริงๆก็แยกไข่ขาวมาตีให้ขึ้นฟูเป็นยอดแข็งก่อนตะล่อมใส่ส่วนผสมตอนจะเข้าเครื่องทำ waffle ค่ะ นิดามีสูตร waffle แบบ basic ที่ชอบอยู่ 2 สูตรค่ะ Waffles I from Allrecipes and The Greatest Waffle Recipe Ever…

Nida’s Tips: Crispy Bacon

(Scroll down for English) สวัสดีค่ะ เคยสงสัยเหมือนนิดามั้ยคะ ว่าทำไมทอดเบค่อนยังไงก็ไม่กรอบเหมือนเวลาไปทานอาหารเช้าในโรงแรม วันนี้นิดามีสารพัดวีธีทำให้เบค่อนกรอบมาฝากค่ะ 1. กระทะ ถ้าเลือกได้ให้เลือกใช้กระทะเหล็ก (cast iron skillet) ที่ได้ผ่านการ season มาแล้วจะได้ไม่ติดนะคะ (ดูวิธีการ season ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=THgcMtxecvEี่) ถ้าใครใช้ stainless steel ให้เอากระดาษทิชชู่ซับน้ำมันทาบางที่สุดให้ทั่วก่อนค่ะ หรือใช้ non stick ไปเลยค่ะ เบค่อนนั้นจะกรอบได้ต่อเมื่อเราไม่ใส่น้ำมันเพิ่มค่ะ เพราะในชิ้นเบค่อนนั้นก็มีไขมันอยู่แล้วนะคะ เราใส่เบค่อนลงไปในกระทะเย็น แล้วจึงนำตั้งที่ไฟต่ำ-ปานกลาง อย่าให้กระทะร้อนเกินไปค่ะ แล้วก็ทอดช้าๆ กลับด้านสัก 2-3 หน เมื่อไขมันละลายออกมาก็คอยเทออกค่ะ ถ้ามีมันทากไปจะออกมานิ่มนะคะ เบค่อนจะยังไม่กรอบทันทีในกระทะ แต่พอเมื่อเราเห็นว่าสุกแล้ว โดยดูจากไขมันที่เปลี่ยนจากสีใสๆเป็นสีทึบ และดูฟองอากาศที่ผุดๆขึ้นมาตรงชั้นไขมันที่เป็นสัญญาณบอกว่าความชื้นได้ระเหยออกมาแล้วส่งผลให้พอเบค่อนเย็นตัวจะกรอบค่ะ พอตักเบค่อนขึ้นมาให้นำมาสะเด็ดน้ำมันในกระดาษ paper towel ให้เลือกชนิดหนาจะได้ไม่ติดนะคะ และกดลงไปเพื่อซับน้ำมันออกค่ะ รอสัก 2-3 นาทีก็จะไดเบค่อนที่กรอบน่าทาน 2. Microwave วางชิ้นเบค่อนลงบนกระดาษ…

Cheesecakes 101

(Scroll down for English) สวัสดีค่ะ นิดาว่าหลายๆคนที่ไม่ค่อยได้ทำชีสเค้กอาจจะสงสัยในความแตกต่างระหว่างชีสเค้กแบบ no bake และแบบอบใช่มั้ยล่ะคะ ถึงแม้ทั้งสองชนิดจะมีส่วนผสมของชีสชนิดนิ่มเหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนที่อยู่ตรงที่เค้กแบบอบนั้นมีส่วนผสมของไข่(และบางทีก็แป้ง) เพื่อให้ structure กับเค้ก แต่แบบไม่อบนั้นจะเซ็ทตัวจากการเย็นตัวและแข็งตัวของไขมันค่ะ และบางสูตรมีการใส่พวกผงวุ้นเข้าช่วยด้วยแต่นิดาไม่ค่อยชอบ texture แบบนั้นเท่าไหร่นะคะ http://www.bakersroyale.com/cheesecake/oreo-cookies-and-cream-no-bake-cheesecake/ ส่วนชีสเค้กแบบอบนั้นแยกชนิดได้หลากหลาย เช่น New York Cheesecake ที่ใช้ครีมชีสเยอะมาก และมีส่วนผสมของ sour cream ตัวเค้กจะเนียนแต่เนื้อหนัก มักจะราดหน้าด้วยชั้น sour cream http://smittenkitchen.com/blog/2010/04/new-york-cheesecake/ Italian Cheesecake ที่ทำจากชีสชนิดอื่นๆเช่น ricotta หรือ mascapone http://www.foodnetwork.com/recipes/giada-de-laurentiis/honey-ricotta-cheesecake-recipe/index.html http://www.bonappetit.com/recipes/2011/05/ricotta-cheesecake ส่วน German Cheesecake จะใช้ quark ทำ http://foodiewife-kitchen.blogspot.com/2011/06/kasekuchen-german-cheesecake.html http://www.dianasdesserts.com/index.cfm/fuseaction/recipes.recipeListing/filter/dianas/recipeID/2244/Recipe.cfm และชีสเค้กอีกชนิดที่ขาดไม่ได้คือชีสเค้กญี่ปุ่น ที่มีเนื้อฟูนุ่มแสนอร่อย เค้กชนิดนี้มีส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวโพดและไข่ขาวที่ตีจนขึ้นฟู (meringue) ที่ทำให้เค้กมีเนื้อฟูเบาค่ะ http://justonecookbook.com/blog/recipes/japanese-cheesecake/…