(Scroll down for English) สวัสดีค่ะ เคยสงสัยเหมือนนิดามั้ยคะ ว่าทำไมทอดเบค่อนยังไงก็ไม่กรอบเหมือนเวลาไปทานอาหารเช้าในโรงแรม วันนี้นิดามีสารพัดวีธีทำให้เบค่อนกรอบมาฝากค่ะ 1. กระทะ ถ้าเลือกได้ให้เลือกใช้กระทะเหล็ก (cast iron skillet) ที่ได้ผ่านการ season มาแล้วจะได้ไม่ติดนะคะ (ดูวิธีการ season ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=THgcMtxecvEี่) ถ้าใครใช้ stainless steel ให้เอากระดาษทิชชู่ซับน้ำมันทาบางที่สุดให้ทั่วก่อนค่ะ หรือใช้ non stick ไปเลยค่ะ เบค่อนนั้นจะกรอบได้ต่อเมื่อเราไม่ใส่น้ำมันเพิ่มค่ะ เพราะในชิ้นเบค่อนนั้นก็มีไขมันอยู่แล้วนะคะ เราใส่เบค่อนลงไปในกระทะเย็น แล้วจึงนำตั้งที่ไฟต่ำ-ปานกลาง อย่าให้กระทะร้อนเกินไปค่ะ แล้วก็ทอดช้าๆ กลับด้านสัก 2-3 หน เมื่อไขมันละลายออกมาก็คอยเทออกค่ะ ถ้ามีมันทากไปจะออกมานิ่มนะคะ เบค่อนจะยังไม่กรอบทันทีในกระทะ แต่พอเมื่อเราเห็นว่าสุกแล้ว โดยดูจากไขมันที่เปลี่ยนจากสีใสๆเป็นสีทึบ และดูฟองอากาศที่ผุดๆขึ้นมาตรงชั้นไขมันที่เป็นสัญญาณบอกว่าความชื้นได้ระเหยออกมาแล้วส่งผลให้พอเบค่อนเย็นตัวจะกรอบค่ะ พอตักเบค่อนขึ้นมาให้นำมาสะเด็ดน้ำมันในกระดาษ paper towel ให้เลือกชนิดหนาจะได้ไม่ติดนะคะ และกดลงไปเพื่อซับน้ำมันออกค่ะ รอสัก 2-3 นาทีก็จะไดเบค่อนที่กรอบน่าทาน 2. Microwave วางชิ้นเบค่อนลงบนกระดาษ…
Tag: tips
Cheesecakes 101
(Scroll down for English) สวัสดีค่ะ นิดาว่าหลายๆคนที่ไม่ค่อยได้ทำชีสเค้กอาจจะสงสัยในความแตกต่างระหว่างชีสเค้กแบบ no bake และแบบอบใช่มั้ยล่ะคะ ถึงแม้ทั้งสองชนิดจะมีส่วนผสมของชีสชนิดนิ่มเหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนที่อยู่ตรงที่เค้กแบบอบนั้นมีส่วนผสมของไข่(และบางทีก็แป้ง) เพื่อให้ structure กับเค้ก แต่แบบไม่อบนั้นจะเซ็ทตัวจากการเย็นตัวและแข็งตัวของไขมันค่ะ และบางสูตรมีการใส่พวกผงวุ้นเข้าช่วยด้วยแต่นิดาไม่ค่อยชอบ texture แบบนั้นเท่าไหร่นะคะ http://www.bakersroyale.com/cheesecake/oreo-cookies-and-cream-no-bake-cheesecake/ ส่วนชีสเค้กแบบอบนั้นแยกชนิดได้หลากหลาย เช่น New York Cheesecake ที่ใช้ครีมชีสเยอะมาก และมีส่วนผสมของ sour cream ตัวเค้กจะเนียนแต่เนื้อหนัก มักจะราดหน้าด้วยชั้น sour cream http://smittenkitchen.com/blog/2010/04/new-york-cheesecake/ Italian Cheesecake ที่ทำจากชีสชนิดอื่นๆเช่น ricotta หรือ mascapone http://www.foodnetwork.com/recipes/giada-de-laurentiis/honey-ricotta-cheesecake-recipe/index.html http://www.bonappetit.com/recipes/2011/05/ricotta-cheesecake ส่วน German Cheesecake จะใช้ quark ทำ http://foodiewife-kitchen.blogspot.com/2011/06/kasekuchen-german-cheesecake.html http://www.dianasdesserts.com/index.cfm/fuseaction/recipes.recipeListing/filter/dianas/recipeID/2244/Recipe.cfm และชีสเค้กอีกชนิดที่ขาดไม่ได้คือชีสเค้กญี่ปุ่น ที่มีเนื้อฟูนุ่มแสนอร่อย เค้กชนิดนี้มีส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวโพดและไข่ขาวที่ตีจนขึ้นฟู (meringue) ที่ทำให้เค้กมีเนื้อฟูเบาค่ะ http://justonecookbook.com/blog/recipes/japanese-cheesecake/…
Different Types of Pie/Tart Dough
(scroll down for English) สวัสดีค่ะ ต่อเนื่องจากคราวที่แล้วที่เราได้พูดถึงความแตกต่างของ Tart และ พาย กันไปแล้ว วันนี้เรามาพูดถึง pastry แบบต่างๆที่เราสามารถใช้มาทำขนมเหล่านี้กันได้ค่ะ Graham cracker crust ซึ่งคงเป็น crust ที่ง่ายที่สุดสูดแบบนึง ่ทำจากขนมปังกรอบ graham (มีสีเหลืองทองจากแป้งสาลีที่ยังไม่ผ่านการฟอกขาว) ผสมกับเนยละลาย และอาจจะเพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาลหรือเครื่องเทศต่างๆเช่น cinnamon crust ชนิดนี้สามารถเกาะตัวติดกันเมื่อนำไปแช่เย็นซึ่งทำให้เนยแข็งตัวและยึด crumbs ของขนมปังกรอบไว้ด้วยกันค่ะ พบบ่อยในพายที่มีความ creamy เช่น blueberry cheese pie หรือ banoffee pie ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนขนมปังกรอบจากชนิด graham cracker มาใช้ชนิดอื่นๆได้เช่น cream cracker ต่างๆ (ยี่ห้อ Ritz, Hup Seng, หรือที่มาเป็นถังเหล็กๆ) หรือขนมปังบุุหรี่ต่างๆ รสก็จะคล้ายๆกับแบบ graham ค่ะ graham…
Silpat, Parchment, or Foil
(ภาษาไทยอยู่ข้างล่างนะคะ) Hi there, Once you have been baking for a while, certain practices become a force of habit: you simply automatically execute these steps without actually thinking about the rationale behind it. Therefore, when I was asked by a reader about the differences between silpat, parchment paper, and aluminum foil, I realized that I “intuitively”…
How to pick the best risotto rice – วิธีเลือกข้าวสำหรับ Risotto
Risotto คือหนึ่งในอาหารอิตาเลี่ยนจานโปรดของนิดา ถึงแม้อาหารจานนี้อาจจะมีขั้นตอนที่ดูยุ่งยากเล็กน้อย แต่ถ้าเรารู้จักเลือกข้าวให้ถูกชนิดก็จะมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ Risotto ที่ดีนั้นควรจะมีรสสัมผัสที่เรียกว่า all’onda ที่ลงตัวระหว่างความ creamy และ al dente ข้าวนั้นควรจะลื่นคอ เวลาตักลงจานจะไม่ติดเป็นก้อนแต่จะไหลเอื่อยกระจายตัวออกจนหยุดเป็นรูปวงกลมสวยพอดี แต่ในขณะเดียวกันข้าวก็ต้องไม่นิ่มจนเละ เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ว่านี้นอกเราต้องเลือกข้าวที่มี ratio ระหว่างแป้ง 2 ชนิดที่ลงตัวค่ะ แป้งในข้าวจะมี 2 ชนิด คือ amylopectic ที่ผิวของเมล็ดข้าวที่ละลายออกมาให้ความ creamy และ amylase ข้างในที่ให้ความกรุบๆ ข้าว risotto ที่พบได้ง่ายในบ้านเราคือ Arborio ที่จริงๆแล้วมี amylopectin มากกว่า ทำให้ risotto ออกมาเละเกินไปได้ ถ้าสามารถหาได้ควรใช้ข้าว Carnaroli ซึ่งมีสัดส่วนที่ลงตัวของแป้งสองชนิดนี้ค่ะ หรือถ้าจะเลือกทำ risotto ที่มีส่วนผสมหลักค่อนข้างมีเนื้อหนังก็ควรเลือกข้าวที่แข็งขึ้นอีกอย่างข้าวเมล็ดกลมๆที่มีชื่อยากๆว่า Vialone Nano ค่ะ Picture credit: wikipedia and eatmania.com
The Key to Your Perfect Cookie อบคุกกี้ยังไงให้ถูกใจ
(English below) สวัสดีค่ะ นิดาเชื่อว่าคุกกี้เป็นขนมโปรดของหลายๆคน เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังทำง่ายแสนง่าย จริงๆแล้วคุกกี้นั้นมีหลายประเภท แต่เราสามารถแบ่งคุกกี้ออกเป็น 2 แบบหลักๆคือ 1)แบบ flat & chewy บางแต่เหนียวเคี้ยวหนึบ (อารมณ์ Mrs.Field’s) 2)แบบ thick & cakey ฟูนุ่มและมีเนื้อกึ่งๆเค้ก (อารมณ์ Ben’s Cookies) และแน่นอนว่าส่วนผสมและวิธีทำมีส่วนสำคัญมากๆต่อลักษณะของ cookie ที่อบออกมาค่ะ เพื่อให้ทุกๆคนสามารถเลือกสูตรคุกกี้จากสูตรที่มีอยู่ในหนังสือหรือ internet เป็นพันๆหมื่นๆสูตรได้ง่ายขึ้นนั้น นิดาเลยจะมาบอก tips & tricks ที่จะทำให้คุกกี้ออกมาเป็นแบบใดแบบหนึ่งในสองแบบข้างบนมาฝากกันค่ะ ถ้าคุณชอบแบบ flat and chewy: picture credit: rkllp.co.uk อบคุกกี้ที่อุณหภูมิต่ำ ประาณ 160-175 c เพราะคุกกี้จะมีเวลาขยายตัวออกทางด้านข้างมากกว่าเวลาอบในอุณหภูมิสูงค่ะ ใส่ไขมันมาก -ยิ่งในสูตรมีไขมันผสมอยู่มาก คุกกี้จะยิ่งออกมาแบนค่ะ ใช้เนยแทนไขมันชนิดอื่น เนื่องจากเนยละลายที่อุณหภูมิต่ำกว่าเนยขาวหรือมาการีน ทำให้คุกกี้แบนค่ะ ใช้น้ำตาลทรายแดง เพราะว่าน้ำตาลทรายแดงจะดูดความชื้นมากกว่าน้ำตาลทรายขาว ทำให้คุกกี้คงความ…
Tips การเที่ยวไปทานไปแบบกลับมาแล้วน้ำหนักไม่ขึ้น (มาก)
อย่างที่ทุกๆคนอาจจะพอทราบว่านิดาเพิ่งหนีไปเที่ยวมาตั้งเกือบเดือน ไปมาหลายที่มากๆค่ะ แค่ในอเมริกาก็ไป New York, Chicago, Boston, Portsmouth แถมไปแวะเกาหลีอีก และที่แน่ๆว่าคนช่างกินอย่างนิดาก็ต้องไม่พลาดที่จะไปชิมของอร่อยๆเพียบ แต่นิดาก็ทานอย่างระวังเสมอค่ะจะได้ไม่ต้องกลับมานั่งเครียดพอถึงบ้าน เลยอยากเอา tips ที่นิดาใช้ในการ enjoy อาหารอย่างระมัดระวังเวลาไปเที่ยวมาฝากกันค่ะ Plan มื้อหนักแค่วันละ 1 มื้อ ปรกติเวลานิดาเที่ยว นิดาจะมี list ของร้านที่ต้องการไปลองเยอะมาก หลายร้านเป็นแบบ tasting มีเป็นสิบๆ course ซึ่งแน่นอนว่า calorie มหาศาล นิดาเลยใช้การ limit ตัวเองไม่ให้ทานเยอะเกินโดยการจองร้านแค่วันละ 1 ร้านค่ะ มื้ออื่นก็ทานเป็นมื้อเล็กๆไป ทานง่ายๆตามคาเฟ่ ตามร้านน่ารักๆที่เจอข้างทาง แล้วก็ทานอย่างเผื่อท้องสำหรับมื้อหนักค่ะ แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องบริโภค calorie มากเกินไป แถมไม่กระเป๋าฉีกอีกด้วย ทาน Brunch รวบอาหารเช้าและเที่ยง นิดาเป็นคนชอบทาน breakfast/ brunch food มากๆ แต่ที่แน่ๆสารพัดเมนูไข่พวกนี้ให้พลังงานสูง ถ้าทานเช้าแล้วต่อด้วยเที่ยงอีก อ้วนแน่ๆ…
How to: Hassel Free Entertaining
(ภาษาไทยข้างล่างนะคะ) Hi there, All you readers probably figured it out by now that I love entertaining and hosting parties. I find fulfillment when seeing my guests’ faces light up with a smile, hearing them laugh, knowing that they are having a great time. But, I am not going to lie, entertaining is a lot of…
100th Post – How to Plan a Delicious Trip
Happy 100th Post! I can’t believe that this blog has reached it’s 100th post from what initially was a mere personal journal of gluttony. I could not express to you guys how thankful I am for your support and comments. I hope that there will be many more milestones to come, be it the 200th,…